ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับซีพียู Core Ultra

ซีพียู Core Ultra เป็นชื่อใหม่ของซีพียูจาก Intel ที่เปิดตัวในปลายปี 2023 (เริ่มที่รุ่น Core Ultra 5, 7, 9) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการพัฒนาที่มุ่งหวังในการตอบสนองความต้องการในการประมวลผลข้อมูลที่มีความซับซ้อนในยุคปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นในด้านการออกแบบและฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยให้มันเหนือกว่าซีพียูรุ่นก่อนหน้านี้ รูปแบบของซีพียู Core Ultra นั้นถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับการทำงานที่มีลักษณะเฉพาะของการประมวลผลด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของซีพียู Core Ultra คือการรวมเอาเทคโนโลยีการประมวลผลหลายคอร์เข้ามาใช้ ซึ่งช่วยให้สามารถดำเนินการที่ต้องใช้พลังการคำนวณสูงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง หรือการประมวลผลภาพและเสียงที่มีข้อมูลจำนวนมาก ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ซีพียูสามารถประมวลผลข้อมูลได้ในลักษณะที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
อีกทั้ง ซีพียู Core Ultra ยังถูกพัฒนามาเพื่อให้สามารถจัดการกับการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยให้การใช้พลังงานลดลง แต่ยังคงสามารถจัดการกับการทำงานที่หนักหน่วงได้ดี แนวทางการพัฒนานี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการตอบรับกับความต้องการในการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน ที่ต้องการความสามารถในการประมวลผลที่สูงขึ้นในขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
ความแตกต่างระหว่าง Core Ultra และ Core i (เช่น i5, i7, i9) ทั้งในเชิงโครงสร้างภายในและเป้าหมายการใช้งาน สรุปชัดๆ
หัวข้อ | Intel Core i (เก่า) | Intel Core Ultra (ใหม่) |
---|---|---|
สถาปัตยกรรม | Alder Lake / Raptor Lake | Meteor Lake (ใหม่หมดจด) |
โครงสร้างชิป | ชิ้นเดียว (Monolithic Die) | ชิปหลายตัวประกอบ (Multi-tile, Chiplet) |
การประหยัดพลังงาน | ดีพอใช้ แต่ยังไม่สุด | ดีกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กบางเบา |
มี AI Engine (NPU) | ไม่มี | มีเฉพาะใน Core Ultra เพื่อรองรับ AI |
เน้นการใช้งาน | การทำงานทั่วไป, เกม, งานหนัก | งานผสมผสาน เช่น AI, การประมวลผลภาพ-เสียง |
กราฟิกในตัว (iGPU) | Intel Iris Xe (ดีแต่เก่าแล้ว) | Intel Arc Graphics (ใหม่กว่า, แรงขึ้น) |
ระบบการตั้งชื่อ | Core i5-1340P, i7-13700H เป็นต้น | Core Ultra 5 125H, Ultra 7 155H เป็นต้น |
จุดสำคัญที่แตกต่างแบบเห็นได้ชัดคือ
- Core Ultra มี NPU (Neural Processing Unit) เพื่อรองรับงาน AI เช่น การเร่งการประมวลผล Machine Learning, วิดีโอคอลที่ใช้ AI ช่วยเบลอฉากหลัง, ช่วยประหยัดพลังงาน ฯลฯ
- ใช้ เทคโนโลยี Multi-tile คือแยกชิปเป็นหลายก้อน เช่น ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, ชิป I/O แยกกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าชิปแบบเดิม
- ตัวกราฟิกใน Core Ultra เป็น Intel Arc Graphics (ที่แรงกว่ารุ่นก่อนหน้าชัดเจน)
สรุปสั้นๆ
- ถ้าเอาไปใช้ทำงานทั่วไป, เล่นเกมเบาๆ, ใช้โปรแกรมออฟฟิศ — Core i รุ่นใหม่ๆ ก็ยังโอเค
- แต่ถ้าอยากได้เทคโนโลยีใหม่, ใช้งานที่เน้นประหยัดพลังงาน + มีงานที่เริ่มใช้ AI เข้ามาช่วย (หรือใช้โน้ตบุ๊กบางเบา) — Core Ultra เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า
การปรับ Architecture ของ Core Ultra เพื่อการประมวลผล AI
ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ความต้องการในการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการข้อมูลที่มีความซับซ้อน การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และการสร้างโมเดลการเรียนรู้ที่ต้องใช้พลังการประมวลผลที่สูง ในที่นี้สถาปัตยกรรมของซีพียู Core Ultra ได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว
การปรับ architecture ของ Core Ultra ในด้าน AI เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลและรองรับการทำงานของโหนดที่ซับซ้อนเพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ตอบโจทย์เทคโนโลยี AI ได้อย่างเหมาะสม โดยซีพียู Core Ultra ได้มีการนำเสนอความสามารถในการประมวลผลที่มีการปรับตัวให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) การประมวลผลภาพ (image processing) และการประมวลผลเสียง (audio processing) ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นต้องอาศัยความสามารถในการจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ
สถาปัตยกรรมที่ถูกปรับปรุงนี้ยังรวมถึงการสนับสนุนอินสตรักเจอร์ที่สามารถส่งเสริมให้ AI ดำเนินงานได้อย่างราบรื่น โดยการรวมเอาความสามารถของโพรเซสเซอร์และคอร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่มีความเข้มข้นของ AI ซึ่งเปิดประตูสู่หลากหลายการใช้งาน เช่น สมาร์ทโฟน รถยนต์อัจฉริยะ การแพทย์ที่ล้ำสมัย และอื่น ๆ การสร้างสถาปัตยกรรมที่รองรับการประมวลผล AI นี้ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของการพัฒนาที่มุ่งหวังจะทำให้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ
ตารางเปรียบเทียบ สเปคจริง ของ Intel Core i7-1360P (Gen 13) กับ Intel Core Ultra 7 155H (Meteor Lake, Core Ultra Gen 1)
รายการ | Core i7-1360P | Core Ultra 7 155H |
---|---|---|
สถาปัตยกรรม (Architecture) | Raptor Lake (13th Gen) | Meteor Lake (Core Ultra 1st Gen) |
จำนวนคอร์ (Cores) | 12 คอร์ (4P + 8E) | 16 คอร์ (6P + 8E + 2LPE) |
จำนวนเธรด (Threads) | 16 เธรด | 22 เธรด |
ประเภทคอร์ | P-core (Performance), E-core (Efficiency) | P-core, E-core, LP E-core (Low Power) |
ความเร็วพื้นฐาน (Base Clock) | P-core: 2.2GHz / E-core: 1.6GHz | ไม่ระบุชัดเจน (ขึ้นกับ Load) |
ความเร็วสูงสุด (Turbo Boost) | สูงสุด 5.0GHz | สูงสุด 4.8GHz |
NPU (AI Accelerator) | ไม่มี | มี (Intel AI Boost NPU) |
กราฟิกในตัว (iGPU) | Intel Iris Xe (96 EU) | Intel Arc Graphics (8 Xe-cores) |
หน่วยความจำรองรับ (RAM) | LPDDR5 / DDR5 (สูงสุด 64GB) | LPDDR5x / DDR5 (สูงสุด 96GB) |
TDP (กำลังไฟ) | 28W (Configurable 20-64W) | 28W (Configurable 20-115W) |
กระบวนการผลิต (Process Node) | Intel 7 (10nm Enhanced SuperFin) | Intel 4 (7nm class ใหม่กว่า) |
รองรับ AV1 Encode/Decode | รองรับบางส่วน | รองรับเต็มรูปแบบ |
รองรับ Wi-Fi | Wi-Fi 6E | Wi-Fi 7 (ใหม่กว่า) |
รองรับ Thunderbolt | Thunderbolt 4 | Thunderbolt 4 |
กำหนดการวางตลาด | ต้นปี 2023 | ปลายปี 2023 |
สรุปแบบกระชับ
- Core Ultra 7 155H มีคอร์เยอะกว่า (และมีคอร์ Low Power เพิ่มอีก 2 ตัว ช่วยประหยัดไฟตอน idle หรือเบาๆ)
- Core Ultra 7 155H มี NPU สำหรับเร่งงาน AI
- iGPU ใน Core Ultra ดีกว่า (Arc Graphics แรงกว่าชัดเจน เทียบ Iris Xe)
- การเชื่อมต่อ — Core Ultra รองรับ Wi-Fi 7 (เร็วกว่า Wi-Fi 6E ของ Core i7 1360P)
- การประหยัดพลังงาน — Core Ultra ดีขึ้นอีกขั้น ด้วย Intel 4 Node (เล็กกว่า เดินสัญญาณได้เร็วขึ้น)
หมายเหตุ
- ถ้าเน้นทำงานทั่วไป เปิดหลายโปรแกรมพร้อมกัน Core i7-1360P ยังตอบโจทย์
- ถ้าอยากได้โน้ตบุ๊กที่รองรับงาน AI, เล่นเกมเบาๆ ใช้กราฟิกดีกว่า และอนาคตไปทาง AI — Core Ultra 7 155H เหมาะกว่าชัดเจน
เปรียบเทียบ Architecture (โครงสร้างภายใน) ของ Intel Core i7-1360P (Raptor Lake-P) กับ Intel Core Ultra 7 155H (Meteor Lake-H) กันแบบละเอียดๆ
หัวข้อ | Core i7-1360P (Raptor Lake-P) | Core Ultra 7 155H (Meteor Lake-H) |
---|---|---|
แนวทางการออกแบบ | Monolithic (ชิปก้อนเดียว) | Multi-tile (Chiplet Design) |
Core Layout | 4P-core (Performance) + 8E-core (Efficiency) | 6P-core + 8E-core + 2 LP-E core (Low Power) |
ประเภท Core | P-core = Raptor Cove E-core = Gracemont | P-core = Redwood Cove E-core = Crestmont LP-E core = Crestmont (ประหยัดไฟมากๆ) |
การผลิต (Process Node) | Intel 7 (ประมาณ 10nm Enhanced) | Intel 4 (ประมาณ 7nm class จริงๆ) |
Memory Controller | ฝังใน CPU | แยกเป็น Tile (Memory Tile แยกต่างหาก) |
กราฟิกในตัว (iGPU) | Intel Iris Xe (ฝังใน CPU) | Intel Arc Graphics (แยก Graphics Tile โดยเฉพาะ) |
NPU (AI Engine) | ไม่มี | มี Intel AI Boost NPU (แยก Tile) |
ระบบ I/O (เชื่อมต่อ) | ฝังใน CPU | แยกเป็น SoC Tile (รวม Wi-Fi, Bluetooth, Display, USB) |
รองรับการเร่งงาน AI | ไม่มีเร่งเฉพาะทาง | รองรับด้วย NPU และ iGPU |
Power Efficiency | ประหยัดไฟพอสมควร | ประหยัดไฟกว่าชัดเจน ด้วย LP-E cores และกระบวนการผลิตที่เล็กกว่า |
เป้าหมายการออกแบบ | ประสิทธิภาพทั่วไปสำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา | สมดุลงานทั่วไป + งาน AI + กราฟิกแรง + ประหยัดไฟสุดๆ |
รองรับ Wi-Fi | Wi-Fi 6E ในตัว | Wi-Fi 7 (ผ่าน SoC Tile) |

สรุปสั้นๆ
- Raptor Lake (Core i7-1360P) → คือดีไซน์แบบชิ้นเดียว (เหมือนรุ่นเก่าๆ) ที่เน้นเพิ่มความเร็วคอร์ และใช้ Iris Xe กราฟิกในตัว
- Meteor Lake (Core Ultra 7 155H) → คือดีไซน์ใหม่ แยกชิป Tile ออกเป็น 4 ส่วน
- Compute Tile (P-core / E-core / LP-E core)
- Graphics Tile (Arc GPU)
- SoC Tile (Wi-Fi, Bluetooth, I/O ต่างๆ)
- IO Tile (Memory, PCIe, USB)
- และเพิ่ม NPU สำหรับงาน AI ที่เด่นชัด
Meteor Lake ยังเป็นตัวแรกที่ Intel ใช้ เทคโนโลยีผลิต Intel 4 (จริงๆ แล้วใกล้เคียงกับ 7nm ของ TSMC แต่ Intel ปรับประสิทธิภาพดีกว่าเดิม)
ฟีเจอร์หลักที่รองรับการประมวลผล AI
การพัฒนาซีพียู Core Ultra ใหม่ได้มีการปรับปรุงฟีเจอร์ที่สำคัญเพื่อรองรับการประมวลผล AI อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะความสามารถในการทำงานหลายเธรด (multithreading) ที่ช่วยให้ซีพียูสามารถจัดการกับงานที่ซับซ้อนได้พร้อมกันได้มากขึ้น การทำงานแบบหลายเธรดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในโลกของ AI ปัจจุบัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญคือการเพิ่มประสิทธิภาพที่มาจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้หน่วยประมวลผลเฉพาะด้าน (accelerators) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการคำนวณที่เกี่ยวข้องกับ Machine Learning และ Deep Learning เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลมีความรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น สามารถลดเวลาที่จำเป็นในการฝึกสอนโมเดล AI ตลอดจนการใช้งานในงานวิเคราะห์ข้อมูลที่ต้องการความแม่นยำสูง
นอกจากนี้ ระบบภายในของ Core Ultra ยังมีการปรับปรุงในการจัดการพลังงาน ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานในขณะเดียวกัน ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ ซีพียู Core Ultra จึงไม่เพียงแต่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ยังเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องการการประมวลผล AI ที่มีความซับซ้อนในระดับสูง
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและอนาคตของการประมวลผล AI
การพัฒนาใหม่ของซีพียู Core Ultra ได้สร้างความตื่นตัวในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านการประมวลผล AI ที่มีความต้องการสูงขึ้นในปัจจุบัน คาดว่าในอนาคต การประมวลผล AI จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในภาคธุรกิจ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้าผ่านการใช้ AI เพื่อประมวลผลข้อมูลและตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ประมวลผลคำสั่งซื้ออัตโนมัติ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาด
ในด้านการแพทย์ การใช้ซีพียู Core Ultra จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และสร้างแบบจำลองการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น การประมวลผล AI จะเข้าไปช่วยในการวินิจฉัยโรค การพัฒนาวิธีการรักษาใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ และการวิจัยทางการแพทย์
ภาคความบันเทิงก็ไม่พ้นจากการเปลี่ยนแปลงนี้ การใช้ AI ในการสร้างสรรค์เนื้อหา เช่น การสร้างภาพยนตร์หรือเพลงที่สามารถตอบสนองต่ออารมณ์และความต้องการของผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในด้านการศึกษา การใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนจะช่วยให้ผู้สอนสามารถปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมได้
ผู้พัฒนาจะต้องมีความสามารถในการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยการพัฒนาเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้ง่าย และสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การประมวลผล AI สามารถขยายตัวไปได้อีกในอนาคต