วันศุกร์, 25 เมษายน 2568

ออกแบบเมืองอัจฉริยะอย่างไรให้เหมาะสมและดีต่อผู้อาศัย

04 มี.ค. 2025
169

ความหมายและแนวคิดของเมืองอัจฉริยะ

บางอย่างนั้นมีให้เห็นจริงแล้ว บางอย่างก็ยังคงเป็นแค่ความคิดในจินตนาการ แต่ไม่เป็นไร เพราะหลายเรื่องก็พัฒนามาจนเกินความคาดคิดไว้เยอะ น้ำใสดอทคอม ได้เห็นการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด อย่างเมื่อก่อน คอมพิวเตอร์ กว่าจะบูต (Boot) เข้าระบบปฏิบัติการ ต้องมีแผ่นบูต น้ำใสดอทคอม ยังจำได้จับคอมพิวเตอร์ครั้งแรกระบบปฎิบัติการเป็น unix ซึ่งใช้ command line ในการสั่งงาน ตอนนั้นยังไม่มีกราฟฟิกสวยๆ ไม่มีเมาท์ มีแต่คีย์บอร์ดไว้ป้อนคำสั่ง แต่ปัจจุบันพัฒนาไปมาก เพราะฉนั้นในส่วนของเมืองอัจฉริยะนั้น น้ำใสดอทคอมมั่นใจว่าเป็นไปได้แน่นนอน

เมืองอัจฉริยะ หมายถึง การพัฒนาเมืองให้มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน และสำรวจการจัดการระบบพื้นฐานต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การออกแบบเมืองอัจฉริยะจึงเป็นกระบวนการที่มุ่งเน้นการบูรณาการทรัพยากร เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยมีเป้าหมายในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ยั่งยืน และให้ผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้น

แนวคิดเมืองอัจฉริยะเริ่มมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วโดยมีการเชื่อมต่อข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ช่วยให้การวางแผนและการบริหารจัดการเมืองเป็นไปอย่างเป็นระบบ การใช้เซ็นเซอร์เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการจราจร สภาพอากาศ และการใช้พลังงานในเมืองจะช่วยให้ผู้บริหารเมืองสามารถทำการตัดสินใจที่ดีขึ้น สร้างแผนพัฒนาที่เหมาะสม และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลดีต่อการพัฒนาโดยรวมของเมือง

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเมืองอัจฉริยะยังรวมถึงการใช้โครงข่ายการสื่อสารไร้สาย การพัฒนาระบบการขนส่งอัจฉริยะ รวมถึงการใช้พลังงานทางเลือกในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เหล่านี้มีส่วนสำคัญในการสร้างคุณสมบัติที่จำเป็นของเมืองอัจฉริยะ โดยบูรณาการการใช้งานในทุกด้าน ทำให้เมืองอัจฉริยะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

การวางผังและสถาปัตยกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

การออกแบบเมืองอัจฉริยะต้องพิจารณาถึงความต้องการและคุณภาพชีวิตของผู้อาศัยเป็นสำคัญ การวางผังเมืองและสถาปัตยกรรมจำเป็นต้องมีการสร้างสรรค์ที่มุ่งสู่ความโปร่งใสและยั่งยืน โดยสิ่งเหล่านี้ต้องสามารถตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย เมืองอัจฉริยะดีอย่างไรนั้นต้องดูที่การเชื่อมต่อของสิ่งต่างๆ รวมทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมและช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างประหยัด

เทคนิคการออกแบบที่สำคัญในเมืองอัจฉริยะคือ การสร้างพื้นที่สาธารณะที่สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยมีการรองรับการเดินและการใช้จักรยาน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางอย่างยั่งยืน อีกทั้ง การติดตั้งเทคโนโลยีในการจัดการทรัพยากร เช่น ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะและการใช้พลังงานทางเลือก ช่วยลดพลังงานและค่าใช้จ่ายในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้วัสดุที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในสถาปัตยกรรมยังสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีในเมืองได้

นอกจากนี้ การรวมตัวกับเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำธุรกิจและการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่สาธารณะหรือการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับข้อมูลในเมืองที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เมืองอัจฉริยะมีความยั่งยืนและพร้อมตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล

ความสำคัญของการเชื่อมต่อไร้สายและเทคโนโลยี IoT

การพัฒนาเมืองอัจฉริยะมีความจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของประชาชน การเชื่อมต่อไร้สายและเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) มีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเหล่านี้ ระบบการเชื่อมต่อไร้สายช่วยให้ข้อมูลสามารถถูกสื่อสารได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน การใช้งาน IoT เช่น ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม รับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าในบ้านและบันทึกพฤติกรรมการใช้พลังงานเพื่อศึกษาและปรับปรุงความสามารถในการจัดการทรัพยากร

นอกจากนี้ เทคโนโลยี IoT ยังสามารถช่วยในการดูแลเหตุการณ์ในเมือง เช่น การติดตามสภาพอากาศหรือการจราจร ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลแบบ realtime ระบบเหล่านี้สามารถแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ทันที และสามารถปรับเปลี่ยนการให้บริการอย่างเหมาะสม การประยุกต์ใช้ IoT ในการออกแบบเมืองอัจฉริยะสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิต ดังนั้น การนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรอย่างไม่จำเป็น และสนับสนุนแนวทางในการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะขึ้นอยู่กับการบูรณาการของเทคโนโลยีต่างๆ และการสร้างความร่วมมือจากทุกฝ่าย เช่น ภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างการออกแบบเมืองอัจฉริยะที่ดีและเหมาะสมต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในอนาคต

การจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม

การออกแบบเมืองอัจฉริยะไม่สามารถแยกออกจากการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้ เมืองเหล่านี้ต้องมีการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยการนำเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างความยั่งยืน เมืองอัจฉริยะควรเน้นการใช้พลังงานจากแหล่งที่หมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ซึ่งสามารถลดการพึ่งพิงจากเชื้อเพลิงฟอสซิลได้

นอกจากนี้ การประกอบโครงสร้างพื้นฐานควรคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การพัฒนานั้นเกิดผลดีต่อชุมชนและธรรมชาติ เมืองอัจฉริยะดีอย่างไรในแง่นี้ คือสามารถปรับตัวได้กับการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม โดยการใช้โซลูชั่นที่มุ่งเน้นไปที่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ ที่ติดตามการใช้พลังงานในแต่ละอาคารและแนะนำวิธีการประหยัดพลังงานที่เหมาะสม

นอกจากนี้ การสร้างโครงข่ายการขนส่งที่ยั่งยืน เช่น เส้นทางจักรยาน สถานีชาร์จรถไฟฟ้า และการให้บริการขนส่งสาธารณะที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอน จะช่วยส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การวางแผนเมืองจึงควรรวมถึงการสร้างสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียว เพื่อให้ประชาชนมีพื้นที่พักผ่อนและสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือก อีกทั้งยังลดมลพิษในอากาศ

เป้าหมายหลักของการออกแบบเมืองอัจฉริยะคือการสร้างสถานที่ที่สามารถบรรลุความต้องการของประชาชนในด้านพลังงาน พร้อมคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สิ่งนี้ทำให้เมืองมีความน่าอยู่อาศัยและยั่งยืนสำหรับอนาคต

การใช้ข้อมูลในการปรับปรุงบริการในเมือง

เมืองอัจฉริยะสามารถพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อมีกระบวนการใช้ข้อมูลที่เหมาะสมในการปรับปรุงบริการต่างๆ ซึ่งการเก็บข้อมูลจากประชาชนมีบทบาทสำคัญในการทำให้การบริการเหมาะสมกับความต้องการของผู้อาศัย โดยเริ่มจากการศึกษาและทำการสำรวจความคิดเห็นของทุกคน เพื่อให้เข้าใจปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา

ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากประชาชนสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพของบริการสาธารณะ การขนส่งสาธารณะเป็นตัวอย่างที่เด่นชัด เมืองอัจฉริยะจะต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการใช้บริการ ตารางเวลา และความพอใจของผู้ใช้บริการเหล่านี้ ผลการวิเคราะห์สามารถนำไปสู่การปรับปรุงทิศทางหรือการปฏิบัติการให้บริการขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การเพิ่มจำนวนรถเมล์ในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น หรือลดระยะเวลาการรอคอย

นอกจากนี้ยังมีบริการด้านสุขภาพที่สามารถพัฒนาขึ้นจากการใช้ข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการสุขภาพและอัตราการเข้ารับการรักษาสามารถช่วยให้ฝ่ายที่มีอำนาจตัดสินใจปรับปรุงการเข้าถึงบริการเพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น

การตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข้อมูลที่เก็บรวบรวมจะทำให้เมืองอัจฉริยะสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างสมดุล และส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการออกแบบเมืองอัจฉริยะที่มีการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมที่มีความสุขและเติบโตอย่างยั่งยืน

การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาเมือง

การพัฒนาเมืองอัจฉริยะจึงต้องไม่เป็นเรื่องของหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีการมีส่วนร่วมของประชาชนในการออกแบบเมืองอัจฉริยะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนานั้นตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง การมีส่วนร่วมนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายรูปแบบ เช่น การจัดประชุมสาธารณะ การสำรวจความคิดเห็นหรือการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบเมืองอัจฉริยะได้

กระบวนการที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม จะช่วยสร้างความโปร่งใสในข้อมูลและการตัดสินใจของหน่วยงานรัฐ นอกจากนี้ยังช่วยให้ประชาชนมีการรับรู้ถึงสิทธิและความรับผิดชอบของตนเมื่อต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนเมือง การเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้ามามีเสียงในการออกแบบเมือง ทำให้เมืองอัจฉริยะสามารถพัฒนาขึ้นอย่างเป็นธรรมและมีความยั่งยืน

ผลจากการมีส่วนร่วมของประชาชนนี้ยังสามารถประเมินได้ผ่านการตอบสนองของชุมชนต่อเมืองอัจฉริยะ เช่น ความพึงพอใจต่อบริการสาธารณะ การใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการบริหารจัดการเมือง รวมถึงการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความคิดจากประชาชนจะเป็นพลังที่ขับเคลื่อนให้การออกแบบเมืองอัจฉริยะมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น และสร้างความเป็นเอกภาพในชุมชน นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมยังสามารถลดปัญหาความขัดแย้งและเปิดโอกาสให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเฉพาะในด้านการออกแบบที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย

โมเดลเมืองอัจฉริยะที่ประสบความสำเร็จ

ในปัจจุบัน, หลายเมืองทั่วโลกได้มีการพัฒนาโมเดลเมืองอัจฉริยะหรือเมืองอัจฉริยะอย่างจริงจัง นครซานฟรานซิสโก สตอกโฮล์ม และสิงคโปร์ เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของความสำเร็จในการออกแบบเมืองอัจฉริยะที่ไม่ได้เพียงแค่เน้นเทคโนโลยี แต่ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนภายในเมืองด้วย

นครซานฟรานซิสโก มีการนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านโครงการอย่าง SmartSF ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการตัดสินใจที่ดีกว่า ในด้านการขนส่ง ระบบจอดรถอัจฉริยะช่วยลดความแออัดและประหยัดเวลาให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้น การที่เมืองให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนา เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โมเดลเมืองอัจฉริยะในซานฟรานซิสโกประสบความสำเร็จอย่างสูง

ในขณะเดียวกัน, สตอกโฮล์มได้นำเสนอการออกแบบเมืองอัจฉริยะที่เน้นความยั่งยืน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับพลังงานสะอาด การใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพและสมาร์ท ทำให้เมืองมีความปลอดภัยและลดมลพิษ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าเมืองอัจฉริยะดีอย่างไรอีกหนึ่งด้าน

สิงคโปร์ นับว่าเป็นเมืองอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในเมือง โดยเฉพาะการควบคุมการจราจรผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปัจจัยที่สำคัญต่อความสำเร็จของเมืองเหล่านี้คือการบูรณาการระหว่างเทคโนโลยี การวางแผนและการมีส่วนร่วมของชุมชน ทำให้เกิดการพัฒนาเมืองที่ครบวงจรและยั่งยืน

ความท้าทายและอุปสรรคในการสร้างเมืองอัจฉริยะ

การสร้างเมืองอัจฉริยะเป็นโครงการที่มีความซับซ้อนและสามารถเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ซึ่งสามารถจำแนกได้ตามด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน เทคโนโลยี การบริหารจัดการ และการรับรู้จากประชาชน

ในด้านการเงิน เมืองอัจฉริยะมักต้องการการลงทุนเริ่มต้นที่สูง โดยเฉพาะในสนามเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการพัฒนาระบบการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ การจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ เมืองอัจฉริยะจำเป็นต้องมีแผนการเงินที่ยั่งยืน เพื่อให้โครงการมีความต่อเนื่องและอยู่รอดในระยะยาว

ทางด้านเทคโนโลยี การสร้างเมืองอัจฉริยะจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและอัปเดตอยู่เสมอ การเลือกใช้โปรแกรมและฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมจึงสำคัญมาก นอกจากนี้ ยังต้องมีระบบความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน กฎระเบียบเกี่ยวกับข้อมูลและความเป็นส่วนตัวจึงต้องมีการพัฒนาควบคู่กันไป

การบริหารจัดการก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญ โดยเฉพาะการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่มักมีหลายระดับ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐและภาคเอกชนสามารถช่วยลดอุปสรรคและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้

นอกจากนี้ การรับรู้จากประชาชนเกี่ยวกับการออกแบบเมืองอัจฉริยะมีความสำคัญยิ่ง ความเข้าใจที่ถูกต้องและการมีส่วนร่วมของชุมชนจะช่วยสร้างความนิยมและสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

แนวทางการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงการจัดทำแผนการสื่อสารเพื่อให้ประชาชนเข้าใจวิธีการและประโยชน์ที่เขาจะได้รับจากเมืองอัจฉริยะ ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในทิศทางที่ดีต่อผู้อาศัย

อนาคตของเมืองอัจฉริยะ

เมืองอัจฉริยะเป็นแนวคิดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ ซึ่งการออกแบบเมืองอัจฉริยะนั้นจะต้องสอดคล้องกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ โดยมีเป้าหมายในการทำให้การใช้ชีวิตของประชาชนสะดวกสบายยิ่งขึ้น เมืองอัจฉริยะดีอย่างไรนั้นอาจจะเห็นได้จากประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรและการส่งเสริมความยั่งยืนในทุกภาคส่วน

วิทยาการใหม่ ๆ เช่น Internet of Things (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันในโครงสร้างพื้นฐานของเมืองอัจฉริยะ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่าง ๆ อย่างเช่น การจัดการจราจร การบริหารจัดการขยะ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ เมืองอัจฉริยะจะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ คาดว่าเมืองอัจฉริยะจะสร้างงานและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการดึงดูดการลงทุนและการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ให้เข้ากับการออกแบบเมืองอัจฉริยะ จะสามารถสร้างความเท่าเทียมให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง โดยการรับประกันว่าเทคโนโลยีจะเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

ในอนาคต เมืองอัจฉริยะไม่เพียงแต่จะเติมเต็มความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังจะช่วยในการเตรียมความพร้อมสำหรับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมุ่งหวังให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัย และสะดวกต่อการดำเนินชีวิต ทุกอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อเรามีการวางแผนการออกแบบเมืองอัจฉริยะที่ดีและคำนึงถึงความต้องการของประชาชนอย่างจริงจัง

อย่างที่น้ำใสดอทคอมเสนอไปแล้ว ทุกท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไรกันบ้าง เมืองอัจฉริยะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในรุ่นเราไหม แต่น้ำใสดอทคอมมั่นใจคนรุ่นใหม่เค้าสร้างเมืองอัจฉริยะแน่นอนเพราะเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปถึงจุดหนึ่งน่าจะมีความจำเป็นต้องมีเมืองอัจฉริยะเกิดขึ้นแน่นอน น้ำใสดอทคอมเชื่ออย่างนั้น อะไรที่เป็นไปไม่ได้ในยุคนี้ แต่ไม่ได้แปลว่าจะเป็นไปไม่ได้ในอนาคต