วันเสาร์, 17 พฤษภาคม 2568

ไฟล์วอล Fortigate 120G มีอะไรน่าสนใจบ้าง

Fortigate 120G เป็นไฟล์วอลล์ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Fortinet ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันเครือข่ายจากภัยคุกคามต่างๆ เช่น ไวรัส, มัลแวร์, และการโจมตีทางไซเบอร์ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เกิดการใช้งานระดับองค์กร ภายในอุปกรณ์นี้ได้รวมฟีเจอร์ที่สำคัญตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การป้องกันการบุกรุก, การควบคุมแบนด์วิดท์, และบริการ VPN ที่ทำให้การเชื่อมต่อมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

120G เปิดตัวในช่วงกลางปี 2023 โดย Fortinet ได้ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์นี้ในเดือนมิถุนายน 2023 โดยมีการใช้งานจริงในองค์กรตั้งแตต้นปี 2023 และได้รับการสนับสนุนใน FortiOS รุ่น 7.0.15 build 0632 ซึ่งเปิดตัวในช่วงกลางปี 2023 เช่นกัน

อุปกรณ์ Fortigate 120G มีสเปคที่น่าประทับใจ รวมถึงการประมวลผลที่รวดเร็วและความสามารถในการจัดการปริมาณข้อมูลที่สูง ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในภาคธุรกิจที่มีผู้ใช้งานหลายคน ที่สำคัญ ฟีเจอร์ DEEP PACKET INSPECTION ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในระดับลึก ทำให้การรักษาความปลอดภัยเครือข่ายมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ Fortigate 120G กลายเป็นตัวเลือกที่นิยมในตลาดอุปกรณ์ไฟล์วอลล์

FortiGate 120G เป็นหนึ่งในรุ่นใหม่ของ Fortinet ที่อยู่ในซีรีส์ FortiGate G-series ซึ่งมาพร้อมกับหลายการอัปเกรดที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง F-series หรือ E-series โดยเฉพาะในแง่ของ ประสิทธิภาพ, พอร์ตการเชื่อมต่อ, และ ความสามารถด้าน AI/ML สำหรับการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง

จุดเด่นที่น่าสนใจกว่าเดิมใน FortiGate 120G

    1.FortiASIC SOC5

    • ใช้ชิป System-on-Chip (SOC5) รุ่นล่าสุดที่ Fortinet ออกแบบเอง
    • ช่วยเพิ่ม throughput สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะ SSL inspection, IPS, และ NGFW
    • ประสิทธิภาพดีกว่าชิป SOC4 ที่ใช้ใน F-series

    2.ประสิทธิภาพ (Performance)

    • Firewall Throughput สูงถึง 22 Gbps (มากกว่ารุ่นก่อนที่อยู่ราว ๆ 10–14 Gbps)
    • Threat Protection ประมาณ 1.6 Gbps (ขึ้นอยู่กับการเปิดฟีเจอร์ UTM)
    • SSL inspection throughput ดีขึ้นเยอะ รองรับการทำงานในยุค HTTPS-first ได้ดีขึ้น

    3.พอร์ตที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

    • มาพร้อมพอร์ต 10G SFP+ (เช่น 2 ช่อง) สำหรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง
    • พอร์ต 1G และพอร์ต MGMT แยกต่างหาก ช่วยจัดการ network ได้สะดวก

    4.รองรับ FortiGuard AI/ML

    • ทำงานร่วมกับ Fortinet Security Fabric และ FortiGuard AI Threat Intelligence
    • ระบบเรียนรู้และตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ พร้อม response อัตโนมัติ

    5.Zero Trust & SASE Ready

    • รองรับ ZTNA (Zero Trust Network Access) ในตัว ไม่ต้องซื้อแยก
    • รองรับการใช้งานใน SASE architecture ได้ดีขึ้นสำหรับองค์กรที่ใช้ hybrid work

    6.Security Services เต็มรูปแบบ

    • รองรับ UTM features แบบครบครัน: NGFW, IPS, AV, Web Filtering, Application Control ฯลฯ
    • รองรับ SD-WAN, VPN, และการทำงานแบบ HA (High Availability)

    สรุปคือ FortiGate 120G เหมาะกับองค์กรที่ต้องการ performance สูงกว่า, รองรับ traffic ปริมาณมาก, และ มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงในยุค Zero Trust และ Cloud-first ได้ดีกว่ารุ่นเก่าแบบ E หรือ F-series อย่างชัดเจน

    ในยุคปัจจุบัน ไฟล์วอลล์ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ Fortigate 120G ยังคงนำเสนอความสามารถในการป้องกันที่เหนือกว่ารูปแบบดั้งเดิม ผ่านการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาในยุคดิจิทัลนี้ ทำให้ไฟล์วอลล์ไม่ใช่แค่เครื่องมือป้องกันแต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการจัดการเครือข่ายอีกด้วย

    คุณสมบัติและฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

    Fortigate 120G เป็นไฟล์วอลที่มีคุณสมบัติและฟีเจอร์หลากหลายซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้กับระบบเครือข่าย โดยเริ่มจากระบบป้องกันการบุกรุก (Intrusion Prevention System – IPS) ที่มีความสามารถในการตรวจจับและบล็อกการโจมตีที่มาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ

    นอกจากนี้ Fortigate 120G ยังมีฟีเจอร์การบล็อคไวรัส ที่สามารถตรวจสอบไฟล์ที่ถูกดาวน์โหลดและรับส่งในเครือข่ายได้แบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสหรือมัลแวร์ โดยทางไฟล์วอลรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีการสแกนที่มีความแม่นยำสูง ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลของตน

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Fortigate 120G คือการกรองเว็บ ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมและจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมหรืออันตรายได้ โดยสามารถตั้งค่าตามนโยบายความปลอดภัยขององค์กร นอกจากนี้ การจัดการแบนด์วิธก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานแบนด์วิธในเครือข่ายได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การทำงานและการเข้าถึงข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

    เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ในไลน์ผลิตภัณฑ์ Fortigate จะพบว่า Fortigate 120G มีความสามารถและฟีเจอร์ที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน การป้องกันที่เพิ่มขึ้น และการจัดการที่ง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยและประสิทธิภาพในระดับสูง

    เปรียบเทียบ FortiGate 120G vs 100F

    รายการFortiGate 120GFortiGate 100F
    ชิปประมวลผลFortiASIC SoC5FortiASIC SoC4
    Firewall Throughputสูงสุด 39 Gbpsสูงสุด 20 Gbps
    IPSec VPN Throughput35 Gbps11.5 Gbps
    IPS Throughput5.3 Gbps1.6 Gbps
    NGFW Throughput3.1 Gbps800 Mbps
    Threat Protection Throughput2.8 Gbps700 Mbps
    SSL Inspection Throughput3 Gbps1 Gbps
    จำนวนพอร์ต RJ4518 พอร์ต (รวม 1 Mgmt, 1 HA, 16 Switch)22 พอร์ต (รวม 2 WAN, 1 DMZ, 1 Mgmt, 2 HA, 16 Switch)
    พอร์ต SFP/SFP+8x GE SFP, 4x 10GE SFP+4x SFP, 2x 10GE SFP+ FortiLinks
    รองรับ FortiAPs (Total/Tunnel)128 / 64128 / 64
    รองรับ FortiSwitches4832
    Virtual Domains (Default/Max)10 / 1010 / 10

    การติดตั้งและการตั้งค่าที่เหมาะสม

    การติดตั้ง Fortigate 120G นั้นเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องการการวางแผนที่ดี แต่ยังต้องการความเข้าใจในการใช้ฟังก์ชันต่างๆ ที่เครื่องนี้มีให้ ด้วยเหตุนี้เราจึงจะทำการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการติดตั้งและการตั้งค่าที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    เริ่มต้นจากการตรวจสอบอุปกรณ์ที่จำเป็น ในทั่วไป Fortigate 120G จะต้องมีการเชื่อมต่อกับไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตก่อนที่จะเริ่มกระบวนการติดตั้ง จากนั้นให้ต่อสาย Ethernet ระหว่างเครื่อง Fortigate และสวิตซ์ระบบเครือข่าย เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว เปิดเครื่องและรอให้ระบบปฏิบัติการเริ่มทำงาน

    หลังจากเปิดเครื่องมาแล้ว ให้เข้าถึงหน้าต่างการตั้งค่าผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยพิมพ์ที่อยู่ IP เริ่มต้นของ Fortigate 120G ลงในแถบที่อยู่ หลังจากนั้นจะนำไปสู่หน้าอินเตอร์เฟซของเครื่องที่ใช้การตั้งค่า จากนั้นเข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้งาน

    เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งค่าบัญชีผู้ใช้และการสร้างกลุ่มนโยบายพื้นฐานสำหรับการรักษาความปลอดภัย เช่น การกำหนดกฎการเข้าถึงและการตั้งค่าการจัดการที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าเครือข่ายมีความปลอดภัย

    นอกจากนี้ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟังก์ชันต่างๆ ที่มีในหน้าจอเครื่อง เช่น การกำหนดค่าฮาร์ดแวร์ ไฟร์วอลล์ และการตั้งค่าของ VPN เพื่อให้สามารถจัดการกับเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การตั้งค่าที่ถูกต้องจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ Fortigate 120G ได้อย่างเต็มกำลังและมีการจัดการความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องข้อมูลจากการคุกคามทางไซเบอร์

    เคล็ดลับและการบำรุงรักษา Fortigate 120G

    การดูแลรักษา Fortigate 120G เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัยของระบบเครือข่ายของคุณ การอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งในกระบวนการที่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการอยู่เสมอ โดย Fortigate มีการปล่อยอัปเดตเพื่อตอบสนองต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและปรับปรุงสมรรถนะ ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรตรวจสอบและติดตั้งอัปเดตใหม่ ๆ เป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์มีความปลอดภัยสูงสุด

    การสำรองข้อมูลเป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่มีความสำคัญ เนื่องจากสามารถช่วยป้องกันการสูญหายของข้อมูลที่สำคัญ การทำสำเนาการตั้งค่าทั้งหมดไว้ในที่ปลอดภัย สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ผ่านทางฟังก์ชันที่มีอยู่ในอินเทอร์เฟซของ Fortigate ภายหลังการอัปเดตหรือปรับแก้อุปกรณ์ ผู้ใช้งานควรย้อนกลับมาทำการสำรองข้อมูลใหม่เสมอ

    การตรวจสอบสถิติการใช้งานนั้นเป็นการประเมินความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์ Fortigate 120G โดยผู้ดูแลระบบควรเข้าไปตรวจสอบบันทึกการเข้าถึง และการใช้งานแบนด์วิธอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แผนการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายมีความมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การจัดการกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การแจ้งเตือนของระบบ หรือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ ก็เป็นอีกขั้นตอนที่จำเป็น และสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่งข้อมูลทางเทคนิคต่าง ๆ ที่ Fortigate จัดเตรียมไว้ เช่น เว็บบอร์ด Forum หรือเอกสารออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

    แหล่งข้อมูลราคา ของ Fortigate 120G

    คุณผู้อ่านที่สนใจเลือกซื้อ Fortigate 120G สามารถแวะชมสินค้าได้ทาง Fortigate 120G ราคา สามารถแวะชม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ